สรุปผลการศึกษา วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องและปราบปรามการทุจริต
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) มองเห็นว่าปัจจัยที่เอื้อต่อการทุจริตต่าง ๆ เกิดจากการที่กระบวนการยุติธรรมในสังคมไทยยังไม่เข้มแข็งมักถูกแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพลและนักการเมือง ตลอดจนการที่ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายขั้นพื้นฐานและขั้นตอนการอำนวยความยุติธรรม ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านอำนวยความยุติธรรมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจัยที่กล่าวส่งผลให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้นโดยดัชนีวัดดูได้จากการคอร์รัปชันในประเทศไทยลดลงจากคะแนนเต็ม 10 ในปี 2549 ประเทศไทยได้คะแนน 3.6 ส่วนในปี 2550 ได้คะแนน 3.3 สำนักงาน ปปช. เห็นว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คะแนนประเทศไทยตกต่ำไปกว่านี้จึงได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีเครื่องมือชี้นำการพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรด้านกระบวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ยั่งยืนและต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าวมีหลักการพื้นฐาน 3 ประการคือ
- ต้องยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
- ต้องช่วยแก้ไขหรือบรรเทาสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ฝ่ายมาและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนต้องการปัญหาในอนาคต
- ต้องเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันคิดและแสดงความคิดเห็นภายใต้หลักการพื้นฐานดังกล่าว
โดยยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าวมีกลไกในการขับเคลื่อน 4 ประการ คือ....................
สามารถอ่านเอกสารโดยละเอียดได้จากเอกสารประกอบ